ท็อด โบลีย์ เข้ามาเทคโอเวอร์ เชลซี ต่อจาก โรมัน อบราโมวิช เมื่อช่วงกลางปี 2022 และต้องดิ้นรนอย่างหนักในช่วงแรก โดยที่แยกทางกับ โธมัส ทูเคิล และแต่งตั้ง แกรห์ม พอตเตอร์ เข้ามาคุมทีมในฤดูกาล 2022-23

อย่างไรก็ตาม อดีตกุนซือ ไบรท์ตัน คุมทีมในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้เพียง 6 เดือน ก่อนที่จะโดนปลด และ แลมพาร์ด ก็ตอบรับคำขอจากสโมสรให้เข้ามาช่วยทีมอีกครั้งเมื่อเดือนเมษายน 2023

อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ ก็ได้เปิดเผยถึงสิ่งที่ตัวเขาต้องเจอเมื่อกลับไปยังสโมสรที่คุ้นเคยอีกครั้ง โดยเขากล่าวว่า “ผมได้เห็นบางสิ่งที่รู้ว่ามันไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องในวงการฟุตบอลระดับสูง และนั่นคือความจริง”

“ผมไม่ชอบทำงานในช่วงเวลาสั้น ๆ เพราะมันยากที่จะกำหนดแผนการ เมื่อคุณรู้ตัวอยู่แล้วว่าจะต้องออกจากทีมไปเมื่อใด แต่ เชลซี จะเป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของผมเสมอ”

“แต่เมื่อผมเข้าใจถึงมาตรฐานของ เชลซี ในช่วงเวลานั้น ผู้เล่นหลายคนเองก็กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากการที่อาจต้องย้ายออกจากทีม และปัญหาบางอย่างและแรงจูงใจก็เป็นปัญหา ในระหว่างที่เป็นกุนซือรักษาการณ์ คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นได้จริง ๆ”

“เมื่อคุณเห็นผลการแข่งขัน ตัวผมเองก็มีประสบการณ์มากพอที่จะรู้ว่าอะไรถูก อะไรผิด และเรื่องพื้นฐานเพื่อการฝึกซ้อมในสนาม”

“ผมไม่ได้เรียนรู้เรื่องกลยุทธ์อะไรเลย แต่สิ่งนี้ช่วยเสริมสร้างความเชื่อของผมจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ผ่านมา เมื่อคุณรู้ว่านักเตะกลุ่มใดกำลังต่อสู้ไปในทิศทางเดียวกันจริง ๆ ว่ามันแข็งแกร่งแค่ไหน และเมื่อมันไม่ใช่ มันก็อาจเป็นเรื่องที่ท้าทายได้จริง ๆ”

ทั้งนี้ ตัวของ แลมพาร์ด พาทีมเก็บชัยชนะได้เพียงแค่เกมเดียวจาก 11 เกมที่เข้ามาคุมทีมรอบที่ 2 และพา ‘สิงโตน้ำเงินคราม’ จบในอันดับที่ 12 ของตาราง พรีเมียร์ลีก